1. การสืบพันธุ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
1.1 การแตกหน่อหรือเหง้า (Budding) เริ่มต้นจากเซลล์ใหม่ เจริญออกจากกลุ่มเซลล์หรือที่เรียกว่า หน่อหลุดออกจากเซลล์พ่อแม่ และเจริญเติบโตเป็นต้นใหม่ต่อไป เช่น อ้อย กล้วยไม้ กล้วย ไผ่ แหน เป็นต้น
|
1.2 การสร้างสปอร์ (Sporulation) พืชที่เจริญเติบโตเต็มที่จะสร้างสปอร์ ซึ่งสามารถแพร่กระจายไปที่ต่าง ๆ ได้ โดยการอาศัยลมหรือน้ำเป็นตัวพาไป เช่น มอส เฟิร์น ลิเวอร์เวิร์ด หวายทะนอย เป็นต้น
ภาพที่ 2 การสร้างสปอร์
|
1.3 การสืบพันธุ์โดยใช้สโตลอน (Stolon) พืชบางชนิดมีส่วนของลำต้นที่งอกออกมา และทอดเลื้อยไปตามพื้นดิน เช่น สตรอว์เบอร์รี ต้นเศรษฐี เป็นต้น
ภาพที่ 3 การใช้สโตลอน
|
2. เกิดจากการกระทำของมนุษย์
2.1 การตอนกิ่ง คือ การทำให้กิ่งหรือต้นพืชเกิดรากขณะติดอยู่กับต้นแม่ โดยทำการควั่นเปลือกไม้ของพืชใบเลี้ยงคู่ออก จากนั้นนำดินที่มีอาหารสมบูรณ์และกากมะพร้าวชุ่มน้ำพอกไว้ หุ้มด้วยใบตองแห้งหรือพลาสติก ทำการรดน้ำสม่ำเสมอ เมื่อพบว่ามีรากงอกบริเวณรอยควั่นให้ตัดกิ่งออกจากต้นแล้วนำไปปลูก ให้ได้ต้นพืชใหม่ ที่เหมือนต้นแม่ทุกประการ
ภาพที่ 4 การตอนกิ่ง
|
2.2 การติดตา การทาบกิ่ง เป็นการขยายพันธุ์พืชโดยยึดหลักการเชื่อมประสานของส่วนต้นพืชเข้าด้วยกัน เช่น ตาและกิ่งจากต้นพ่อแม่ ไปติด ต่อหรือทาบ กับต้นตอให้แนบสนิท หุ้มรอยต่อให้แน่น ห้ามถูกน้ำจนกว่าเนื้อเยื่อพืชจะเชื่อมติดกัน ซึ่งจะได้ต้นใหม่ที่เหมือนแม่ และรากเป็นต้นเดิม
ภาพที่ 5 การทาบกิ่ง
|
2.3การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (Tissue culture) เป็นวิธีปฏิบัติภายใต้สภาวะที่่ควบคุม ความสะอาด อุณหภูมิ และแสง เริ่มจากนำชิ้นส่วนพืชที่มีชีวิต มาเพาะเลี้ยงในอาหารสังเคราะห์ โดยชิ้นส่วนที่นำมาเลี้ยงจะเจริญเติบโตเป็นต้นใหม่ได้
ภาพที่ 6 การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช
|