สวัสดีคะ ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่บทความสาระน่ารู้เรื่องการสืบพันธุ์ของพืชดอก ^o^

การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืชดอก

1. การถ่ายละอองเรณู (Pollination) อับเรณูแก่จัดจนแตกตัว ละอองเรณูของเพศผู้จะฟุ้งกระจายออก จนตกลงบนยอดเกสรตัวเมีย โดยบริเวณยอดเกสรตัวเมียจะมีสารเหนียวๆ ดักจับละอองเรณูไว้ ทั้งนี้อาจเกิดขึ้นภายในดอกเดียวกันหรือข้ามดอกก็ได้ อาศัยปัจจัยต่างๆ เช่น ลมพัดพา กระแสน้ำไหล รวมไปถึงสิ่งมีชีวิตต่างๆ เช่น แมลงที่ไปทานน้ำหวานจากดอกไม้ทำให้เกิดการถ่ายละอองโดยบังเอิญ



ภาพที่ 1 แมลงไปทานน้ำหวานจากดอกไม้

2. การงอกของละอองเรณู โดยปกติภายในละอองเรณูของเซลล์เพศผู้จะมี 2 นิวเคลียส ได้แก่ Generative nucleus และ Tube nucleus เมื่อละอองเรณูตกลงบนยอดเกสรตัวเมีย  Tube nucleus จะทำหน้าที่เป็นท่อจะงอกหลอดยาวลงไปภายในก้านเกสรตัวเมียจนถึงออวุลแล้วสลายตัวไป ส่วน Generative nucleus จะแบ่งตัวแบบไมโตซีสได้สเปิร์มที่มี 2 นิวเคลียส เข้ามาตามหลอด เพื่อทำการปฏิสนธิในขั้นต่อไป
3. การปฏิสนธิของพืชดอก เป็นการปฏิสนธิซ้อน เกิดขึ้นเมื่อสเปิร์ม 2 ตัว ผสมกับส่วนของเซลล์ไข่ ตามสมการดังนี้
  •  สเปิร์มตัวที่ 1 + เซลล์ไข่ (Egg cell) →ไซโกต (Zygote) ซึ่งเจริญไปเป็นเอ็มบริโอ (Embryo)
  • สเปิร์มตัวที่ 2+ โพลาร์นิวเคลียส (Polar nucleus) → เอนโดสเปิร์ม (Endosperm) ซึ่งเป็นอาหารเลี้ยงเอ็มบริโอ


ภาพที่ 2 ปฏิสนธิพืชดอก


4. การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของพืชดอกหลัปฏิสนธิ
  • กลีบเลี้ยง ซึ่งเจริญเติบโตโดยจะ เหี่ยวแห้งหลุดไป
  • กลีดอก/ยอดเกสรตัวผู้/ก้านเกสรตัวเมีย ซึ่งเจริญเติบโตโดยจะเหี่ยวแห้งและร่วงไป
  • ออวุล ซึ่งเจริญเติบโตเป็น เมล็ด
  • รังไข่ ซึ่งเจริญเติบโตเป็น ผล 
  • ผนังหุ้มรังไข่ ซึ่งเจริญเติบโตเป็น เปลือกและเนื้อของผล
  • สเปิร์มตัวที่ 1 + เซลล์ไข่ (Egg cell) →ไซโกต (Zygote) ซึ่งเจริญไปเป็นเอ็มบริโอ (Embryo)
  • สเปิร์มตัวที่ 2+ โพลาร์นิวเคลียส (Polar nucleus) → เอนโดสเปิร์ม (Endosperm) ซึ่งเป็นอาหารเลี้ยงเอ็มบริโอ